
เหตุใดมะเร็งจึงได้ชื่อว่า “เป็นโรคร้าย น่ากลัว รักษายาก และสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมากที่สุด”
คำตอบคงเป็นเพราะลักษณะทางกายภาพของเซลล์มะเร็งที่มี “ลักษณะแตกต่าง” ไปจากเซลล์ร่างกายปกติ เช่น เซลล์มะเร็งโตเร็ว แพร่กระจายไว พรางตัวเก่ง เลี้ยงตัวเองได้ และฆ่าไม่ตายง่ายๆ เรียกว่า ฟังแล้วสยองและต้องยอมใจขอยกตำแหน่งที่ว่าทั้งหมดนี้ให้มะเร็งจริงๆ
- พันธุกรรมไม่คงที่ กลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา ลักษณะข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุดเพราะทำให้เกิดลักษณะ
ข้ออื่นๆ ตามมา โดยปกติเมื่อเซลล์มีการแบ่งตัวจะเกิดเซลล์ที่หน้าตาเหมือนเซลล์พ่อแม่ แต่เซลล์มะเร็งกลับสามารถกลายพันธุ์ไปได้เรื่อยๆ เพื่อหลบหลีกอันตราย หรือปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเมื่อขาดแคลนอาหาร
- แบ่งตัวตลอด เซลล์มะเร็งมี โกร๊ธแฟคเตอร์ (โปรตีนที่มีหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์แบ่งตัวเพิ่มจำนวน) มาก
เกินไป หรือกระตุ้นให้โกร๊ธแฟคเตอร์หลั่งออกมาตลอดเวลา เซลล์มะเร็งจึงสามารถแบ่งตัวได้ตลอดเวลา
- ไม่ยอมหยุดโต เซลล์มะเร็งมักมีการกลายพันธุ์ของยีนที่สร้างตัวยับยั้งวัฏจักรของเซลล์ควบคุมการแบ่งตัว
ของเซลล์ ตัวยับยั้งจึงทำงานไม่ได้ทำให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัวได้ตลอดเวลา
- หลบหลีกภูมิคุ้มกัน เซลล์มะเร็งมีกลไกซ่อนโปรตีนที่ผิดปกติไว้ภายในได้อย่างแนบเนียน ทำให้เซลล์เม็ดเลือด
ขาวตรวจหาไม่เจอ เซลล์มะเร็งจึงไม่ถูกกำจัด
- ไม่ยอมแก่ตาย เซลล์ทุกชนิดมีอายุขัย แก่ และจะฆ่าตัวตายเองเมื่อถึงเวลา แต่เซลล์มะเร็งกลับเอาชนะ
ธรรมชาติข้อนี้ได้โดยทำให้ตัวเองสามารถอยู่ได้แบบอมตะ ไม่แก่ และไม่ตาย
- กระตุ้นการอักเสบ เซลล์มะเร็งสามารถหลั่งสารไซโตไคน์เลียนแบบกระบวนการอักเสบได้จึงทำให้เกิดการ
กระตุ้นการงอกของเซลล์ใหม่และการสร้างหลอดเลือดใหม่ขึ้นได้ กระบวนการอักเสบจึงคงอยู่ แผลจึงไม่ยอมหาย
- ลุกลามและแพร่กระจาย เซลล์มะเร็งสามารถเคลื่อนที่ลงไปในชั้นหนังแท้ได้ และหากวิ่งทะลุเข้าหลอด
น้ำเหลืองได้ก็สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะไกลๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง ปอด ตับ ได้
- สร้างหลอดเลือดเลี้ยงตัวเอง เซลล์มะเร็งจะสร้างหลอดเลือดใหม่ขึ้นมาเชื่อมกับหลอดเลือดเดิม และใช้
เป็นแหล่งดูดสารอาหารจากระบบไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งเองได้
- ไม่ยอมฆ่าตัวตาย เซลล์มะเร็งนอกจากจะซึ่งไม่ยอมฆ่าตัวตายเมื่อถึงอายุขัยแล้ว มันยังแบ่งเซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น
อีกอย่างรวดเร็ว
- สร้างพลังงานผิดปกติ เซลล์มะเร็งแบ่งตัวตลอดเวลาจึงต้องการใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นมันจึงทำตัว
เหมือนอยู่ในภาวะออกซิเจนต่ำตลอดเวลา แล้วเลือกใช้กระบวนการสลายสารอาหารให้ได้พลังงานแบบไม่ต้องใช้ออกซิเจน แม้ว่ากระบวนการแบบนี้จะให้พลังงานน้อย แต่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาก ไม่เพียงเท่านั้นเซลล์มะเร็งยังสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมรอบข้างให้เอื้อต่อการมีชีวิตรอดของมันได้
ร้ายกาจไหมล่ะ เจ้าเซลล์มะเร็ง แต่ถึงอย่างนั้นวงการแพทย์และการสาธารณ์สุขทั่วโลกก็พยายามคิดค้นหาวิธีรักษาและรับมือกับโรคมะเร็งให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น “การผ่าตัด” ซึ่งเป็นการรักษาแผนปัจจุบันที่ใช้มานานที่สุด เป็นมะเร็งตรงไหนก็ตัดเนื้อเยื่อตรงนั้นออก “รังสีรักษา” การรักษาแบบเฉพาะที่ “เคมีบำบัด” การรักษาเชิงระบบเพราะตัวยาจะวิ่งไปตามกระแสโลหิตเพื่อไปจัดการกับเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าการรักษารูปแบบใด ควรได้รับการตรวจและรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่สุด คือ ไม่ควรรักษาทั้งแผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกพร้อมกัน แต่ควรเลือกการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน จากนั้นเข้ารับการรักษาและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเต็มที่ หากไม่ประสบความสำเร็จในแนวทางนั้นจึงค่อยลองรักษาอีกแนวทางหนึ่งจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ กินเป็นมะเร็งขยาด กินฉลาดมะเร็งไม่มา
สำนักพิมพ์ Amarin Health

บก.Horizon
อดีตคนทำนิตยสารธรรมะราย 15 วัน ที่ผันตัวเองมาทำหนังสือในฐานะบรรณาธิการ Amarin Health แบบจริงจัง ยิ่งทำยิ่งได้รู้ว่า “สุขภาพเป็นเรื่องใกล้ตัวมากแค่ไหน” ถ้าไม่อยากป่วย ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากไปพบแพทย์บ่อยๆ และอยากสุขภาพดี เริ่มใส่ใจสุขภาพวันนี้ก็ยังทันนะเธอ ... โห รู้งี้ออกจากวัดมานานแล้ว