
หลายคนคงมีปัญหาเรื่องสายตากันเยอะ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์ทั้งวัน สิ่งที่เป็นตัวช่วยก็คงหนีไม่พ้นแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่คุณรู้ไหมว่าสองสิ่งนี้ทำหน้าที่อะไรไม่ต่างจากเฝือกเลย
การมองเห็นที่สมบูรณ์นั้นต้องใช้ดวงตาทั้งสองข้างประกอบกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีสายตาที่สมบูรณ์แบบเพราะบางคนมีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง สายตาแก่ ฯลฯ
รู้ไหมว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดให้คนเรามีสายตาแตกต่างกันนั้นมีอะไรบ้าง
- ความสมดุลระหว่างความโค้งของกระจกตา
- เลนส์ตา
- ความยาวของลูกตา
- รูปร่างของลูกตา
นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้สายตาผิดๆ อย่างต่อเนื่องยังส่งผลให้สายตาบกพร่องได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไลฟ์สไตล์ของคนสมัยนี้ที่ไม่ว่าเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ซึ่งต่างก็มี “สมาร์ทโฟน หรือ แท๊บเล็ต” เป็นดั่งอวัยวะที่ 33 ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็หยิบขึ้นมา ลากๆ เลื่อนๆ กดๆ แล้วก็เพ่งแล้วเพ่งอีก จึงไม่แปลกเลยว่า เด็กสมัยนี้จะสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่า พระเอกที่คนเกือบ 99 เปอร์เซ็นต์ เลือกมาเยียวยาปัญหานี้คือ แว่นสายตาและคอนแทคเลนส์สายตา แม้ว่าอุปกรณ์ทั้งสองสิ่งนี้จะช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นได้แต่ก็เปรียบเสมือน “เฝือก” หรือ “ไม้เท้า” เท่านั้น ช่วยประคองการมองเห็นแต่ไม่ได้ช่วยให้สายตาดีขึ้น
พอเข้าเฝือก หรือใช้ไม้เท้าช่วยไปนานๆ กล้ามเนื้อตาลูกตาก็ทำงานน้อยลงเพราะไม่ต้องหด หรือคลายมากเท่าเดิมเพราะสมองสามารถแปลภาพออกมาได้ชัดเจนแล้ว ไม่นานกล้ามเนื้อส่วนนี้ก้มีโอกาสเล็กลีบลงได้
ไม่เพียงเท่านั้น การใส่คอนแทคเลนส์สายตานานๆ ยังทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดไม่ดี ส่งผลให้การลำเลียง “ออกซิเจน” ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่สุดของดวงตาเริ่มติดขัดไปด้วย หากดวงตาได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจะส่งผลให้กล้ามเนื้อเลนส์ตาสูญเสียความแข็งแรง ส่วนเลนส์ตาที่สูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้ค่าสายตาแย่ลงไปอีก
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแว่นสายตาและคอนแทคเลนส์สายตาบ่อยๆ
นอกจากนี้ผลพวงจากการสวมแว่นสายตานานๆ ยังทำให้ปวดศีรษะ ตาพร่า กล้ามเนื้อต้นคอแข็งเกร็ง และข้อไหล่ติดได้ด้วย เรียกได้ว่า เจ้าเฝือก (แว่นสายตาและคอนแทคเลนส์) นี้ไม่ต่างกับดาบสองคมที่สามารถ ให้คุณและโทษได้พร้อมๆ กัน
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ สายตาดีด้วยวิธีมหัศจรรย์
สำนักพิมพ์ Amarin Health

บก.Horizon
อดีตคนทำนิตยสารธรรมะราย 15 วัน ที่ผันตัวเองมาทำหนังสือในฐานะบรรณาธิการ Amarin Health แบบจริงจัง ยิ่งทำยิ่งได้รู้ว่า “สุขภาพเป็นเรื่องใกล้ตัวมากแค่ไหน” ถ้าไม่อยากป่วย ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากไปพบแพทย์บ่อยๆ และอยากสุขภาพดี เริ่มใส่ใจสุขภาพวันนี้ก็ยังทันนะเธอ ... โห รู้งี้ออกจากวัดมานานแล้ว